วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ระบบส่งจ่ายของ EGAT


การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

กฟผ. มีหน้าที่ผลิตและจัดหาแหล่งพลังงานให้เพียงพอสำหรับประเทศ รวมทั้งยังมีอำนาจในการจัดซื้อและขายกำลังไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านแล้วจัดส่งต่อไปให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค                
ระบบการส่ง ( Transmission System)
กฟผ. ใช้ระบบสายส่งแรงดันสูง 4 ระดับแรงดัน คือ

-                   500 kV 3 เฟส 3 สาย 50 Hz
-                    230 kV 3 เฟส 3 สาย 50 Hz
-                    115 kV 3 เฟส 3 สาย 50 Hz
-                    69 kV 3 เฟส 3 สาย 50 Hz

สวิตช์ปลดวงจร (Disconnectors or Disconnecting Switches : DS)

                Disconnectors หรือ Disconnecting Switches (DS) คือ บริภัณฑ์ที่ใช้ในการตัดวงจรำฟแรงสูงขณะไม่มีโหลด DS ใช้สำหรับงานดังต่อไปนี้
                1.  เปิดหรือปิดวงจรไฟฟ้าแรงสูง ขณะที่กระแสไฟมีค่าน้อยมาก กระแสดังกล่าวอาจเป็นกระแสของหม้อแปลงกระแส (CT) หรือ กระแสคาปาซิตีพ (Capacitive Current) ของบุสชิ่งบัสบาร์ (Bushing Bulbar) เป็นต้น
                2.  เมื่อปิดวงจรแล้วจะทำให้เกิดระยะห่าง (Isolating Distance) ระหว่างแต่ละขั้ว ซึ่งให้ความปลอดภัย สำหรับป้องกันบุคคลและบริภัณฑ์ต่าง ๆ
                DS มีกลไกการทำงาน (Operating Mechanism) ได้หลายแบบ คือ
                1.  ใช้มือหมุน (Manually Operated)
                2.  ใช้มอเตอร์ (Motor Operated)
                3.  ใช้ลม (Pneumatic Drive)
                เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความผิดพลาดในการทำงาน DS จะต้องมี Interlock กับบริภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เซอร์กิตเบรกเกอร์ สวิตช์ต่อลงดิน เป็นต้น
                ในการเลือก DS จะต้องคำนึงถึงพิกัดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
                1.  พิกัดแรงดัน (Rated Voltage)
                2.  ค่า BIL (Basic Impulse Insulation Level)
                3.  พิกัดกระแส (Rated Normal Current)
                4.  พิกัดกระแสลัดวงจร (Short Circuit Current)

หน้าที่และคุณสมบัติของน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า และสวิทช์เกียร์

           
การที่เราใช้น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าและสวิทช์เกียร์ไว้ในประเภทเดียวกันก็เพราะ การใช้งานเกี่ยวกับน้ำมันในหม้อแปลงไฟฟ้าและสวิทช์เกียร์ทำหน้าที่เหมือนกัน คือ


1. ทำหน้าที่เป็นฉนวนไฟฟ้า
2.
ทำหน้าที่ระบายความร้อน


               
การทำหน้าที่เป็นฉนวนไฟฟ้าของน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าก็คือ การป้องกันกระแสไฟฟ้าที่จะโดดจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ดีกว่าการใช้ ฉนวนอย่างอื่น พร้อมทั้งเคลื่อนตัวถ่ายเทความร้อนได้ถ้าเราใช้กระดาษหรือวัตถุอื่น เช่น อีฟ็อกซี่ จะไม่สามารถเคลื่อนตัวในการถ่ายเทความร้อนได้เลย เราจะเห็นได้ว่าถ้าเราใส่แรงดันไฟฟ้าเข้าไปที่โลหะสองจุดห่างกันประมาณ 3 มม.ในอากาศ แล้วเพิ่มแรงดันขึ้นเพียง 2 หรือ 3 KV กระแสไฟฟ้าจะกระโดดระหว่างจุดทั้งสองนั้นได้ แต่ถ้าเอาโลหะดังกล่าวนั้นจุ่มอยู่ในน้ำมันหม้อแปลงแล้วจะสามารถเร่งแรงดัน สูงขึ้นได้ถึง 25 หรือ 30 KV แล้วแต่คุณภาพของน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้านั้นๆ นี่แสดงให้เห็นว่าน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นฉนวนกั้นไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
              
การทำหน้าที่ระบายความร้อน สามารถเคลื่อนตัวออกมาถ่ายเทความร้อนให้แก่อากาศรอบๆหม้อแปลงได้ ทำให้ขดลวดและแกนเหล็กของหม้อแปลงระบายความร้อนออกได้ ทำให้ฉนวนหุ้มลวดพันคอยล์ก็ดี ฉนวนหุ้มระหว่างขดลวดแรงสูงและแรงต่ำก็ดี ทนทานต่อความร้อนได้ ทำให้ฉนวนนั้นๆไม่ร้อนจนเกินไป หรือร้อนจนถึงจุดไหม้ไฟ หม้อแปลงก็จะมีอายุการใช้งานได้นาน
               
เนื่องจากการใช้งานเกี่ยวกับน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าและสวิทช์เกียร์ใช้งานในที่ ต้องทนแรงดันไฟฟ้าสูงและระบายความร้อนมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ใช้และผู้เกี่ยวข้องควรจะให้ความสำคัญและเรียนรู้ ถึงคุณสมบัติและมาตรฐานของน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าตลอดจนการขนย้าย การเก็บบำรุงรักษา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Yuan class S26T submarines from China.

ส่องเรือดำน้ำ Yuan Class S26T เขี้ยวเล็บใหม่ทัพเรือไทย ค่าตัว 1.3 หมื่นล้าน !            ผ่าสเปค Yuan Class S26T กำลังเสริมใหม่กอง...