วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Yuan class S26T submarines from China.


ส่องเรือดำน้ำ Yuan Class S26T เขี้ยวเล็บใหม่ทัพเรือไทย ค่าตัว 1.3 หมื่นล้าน !

เรือดำน้ำจีน

          ผ่าสเปค Yuan Class S26T กำลังเสริมใหม่กองทัพเรือน่านน้ำไทย เทคโนโลยีสุดล้ำ ติดตั้งระบบ AIP ดำน้ำได้นาน 21 วัน มีตอร์ปิโด 6 ท่อยิง

          และแล้วคณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติอนุมัติให้กองทัพเรือ จัดซื้อเรือดำน้ำ Yuan Class S26T จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 1 ลำ ในวงเงิน 13,500 ล้านบาท เรียบร้อยโรงเรียนจีนไปอย่างเงียบ ๆ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา ว่ามีการอนุมัติซุ่มเงียบ แต่ทางรัฐบาลก็ได้ออกมาบอกว่าไม่มีลับลมคมในอย่างแน่นอน
          อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเรือดำน้ำ Yuan Class S26T ที่จะมาเสริมเขี้ยวเล็บกองทัพเรือเพื่อคุ้มครองน่านน้ำไทย จะมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไรนั้น ทางรัฐบาลก็ได้ออกมาเคลมว่าเรือดำน้ำรุ่นนี้ เป็นเรือดำน้ำลาดตระเวนเดินสมุทรขนาดใหญ่ และเป็นรุ่นพิเศษที่จีนต่อขึ้นสำหรับประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งพัฒนาจาก Yuan Class S26 ธรรมดา โดยมีขนาดยาว 77.7 เมตร กว้าง 8.6 เมตร มีระวางขับน้ำอยู่ที่ 2,600 ตัน และใช้เครื่องยนต์ดีเซลไฟฟ้า

เรือดำน้ำจีน

          สำหรับข้อดีของเรือดำน้ำรุ่นนี้ มีการติดตั้งระบบ AIP หรือ Air-Independent Propulsion system คือ เครื่องยนต์ที่ไม่ต้องพึ่งอากาศจากผิวน้ำ ทำให้อยู่ใต้น้ำได้ต่อเนื่องถึง 21 วัน โดยไม่ต้องขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อชาร์จไฟ โอกาสในการถูกจับจึงยาก ขณะที่เรือดำน้ำปกติจะดำน้ำได้นาน 7-10 วันเท่านั้น และเป็นเครื่องยนต์สเตอร์ลิงที่จีนซื้อต้นแบบมาจากสวีเดนมาพัฒนา มีตอร์ปิโด 6 ท่อยิง ยิงไกลกว่า 250 กิโลเมตร กำลังพล 65 นาย ถือว่ามีความทันสมัยที่สุด รองจากเรือดำน้ำนิวเคลียร์

เรือดำน้ำจีน

          นอกจากนี้ รายงานของคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ของกองทัพเรือ ได้สรุปคุณสมบัติของเรือดำน้ำจีนรุ่นนี้ว่า มีความเหมาะสมทุกด้าน ทั้งในแง่ยุทธศาสตร์ คือ การมีเรือดำน้ำเพื่อคุ้มครองเส้นทางการคมนาคมทางทะเล และถ่วงดุลอำนาจการรบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีเรือดำน้ำเกือบทุกประเทศ ส่วนในแง่ยุทธวิธี เรือดำน้ำรุ่นนี้ก็มีความสามารถในการซ่อนพรางดำน้ำได้นานถึง 21 วัน อีกทั้งภารกิจของเรือดำน้ำรุ่นนี้ คือ ต่อสู้กับเรือผิวน้ำ ต่อสู้กับเรือดำน้ำด้วยกัน วางทุ่นระเบิด โจมตีหน้าท่า และส่งมนุษย์กบขึ้นฝั่ง

เรือดำน้ำจีน

เรือดำน้ำจีน

เรือดำน้ำจีน

          แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีคำถามจากนักวิชาการว่า เรือดำน้ำ S26T จะทำได้ดีแค่ไหนเพราะเป็นเรือขนาดใหญ่ และระบบ AIP จะมีประโยชน์จริงหรือไม่ เพราะอ่าวไทยค่อนข้างตื้น ซึ่งการใช้เรือดำน้ำจริง ๆ แล้ว ต้องสื่อสารกับผิวน้ำเป็นระยะ การดำน้ำได้นาน 21 วัน อาจไม่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง 

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ความจริงแห่งชีวิต

ความจริงแห่งชีวิต

พระสวด

กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา…”

พระสวดไป ใจยังวุ่นวาย รับรู้ไม่ได้ว่าสวดอะไร คงสวดให้ผู้ตายฟัง เรานั่งเฉย ๆ ก็พอ ฟังพระสวดเพื่อมารยาท คงพลาดอานิสงฆ์  ใจคงไม่เข้าใจ ถ้าฟังไป ภาวนาไป ใจคงเห็นความจริง ว่าที่นอนนิ่ง ๆ นั่นมิใช่ใคร คนเคยมีหัวใจเช่นเรา วันนี้เป็นโอกาสเขา

พรุ่งนี้อาจเป็นโอกาสเรา

เคาะโลง

เสียงเคาะโลง มีเสียงพูดเบา ๆ จากผู้เคาะว่า

รับศีลนะ ทานข้าวนะ ฟังพระสวดนะ ทำไปเพื่ออะไร หรือเพียงแค่เคยทำตามกันมา หรือว่า เคาะประชดคนเป็น
ในยามมีชีวิตอยู่ เตือนแค่ไหนก็เตือนเถิด ดูเหมือนไม่สนใจกับสิ่งเหล่านี้ ในยามนี้ เตือนไปก็คงไร้ความหมาย คนตายจะไปรับรู้อะไร เคาะเตือนคนเป็น ให้เห็นถึงความจริงว่า
สิ่งที่ดีเร่งขวนขวาย

วัว ควาย ช้าง ม้ายามมันมรณาประโยชน์ได้ มนุษย์นี่ซิเน่าเปื่อยสูญเปล่าไป ดีชั่วที่ทำไว้ส่องให้โลกเห็น

อาหารหน้าโลง

ชีวิตใครบางคน ถ้าไม่ตาย ก็คงไม่มีใครให้ความสนใจ มากมายเช่นนี้ อาหาร ผลไม้นานาชนิด จัดเรียงรายด้านหน้าโลง สิ่งใดที่ผู้ตายชอบใจ แพงแค่ไหนก็แสวงหามา เพื่อเป็นเครื่องเซ่น แด่ดวงวิญญาณ

ถ้าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ในยามผู้ตายมีชีวิตอยู่ เราคงได้เห็นสีหน้า และได้รับคำขอบใจ อาหารก็ยังคงเป็นประโยชน์ แก่ผู้รับด้วย แต่เวลานี้ทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างคงอยู่สภาพเดิม
บุคคลที่จะรับวัตถุสิ่งของเรา ขณะนี้เขาไม่รับรู้อะไรแล้ว

หรือว่าทำไป  เพียงเพื่อสนองความรู้สึกเรา ในยามมีชีวิตถ้าเราแสดงออกซึ่งความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่กัน คงจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าเหตุการณ์ อาหารหน้าโลง เป็นแน่

ชุดสีดำ

ในยามสูญเสีย บุคคลอันเป็นที่รัก หรือญาติมิตร คงไม่มีใครคิดที่จะดีใจ พกพาความสุขและรอยยิ้มหรอกนะ

สีดำเป็นสีแห่งความทุกข์ โลกให้ความหมายไว้เช่นนั้น ในยามมีงานศพ เรามักพบแต่คนใส่ชุดสีดำส่วนมาก บ่งบอกว่า กำลังไว้ทุกข์ ความจริงแล้วความทุกข์ของคน ใช่ว่าจะมีเรื่องความตาย สิ่งเดียวนั้นหาได้ไม่ การเกิด การแก่ การเจ็บ ความผิดหวัง สิ่งเหล่านี้ก็คือความทุกข์ทั้งสิ้น การใส่ชุดสีดำมางานศพ เพื่อบอกว่าเป็นการไว้ทุกข์ เป็นการทำตามประเพณี แต่ถ้าจะให้ดีต้องไว้ทุกข์ด้วยใจ เพ่งถึงสภาวะความพลัดพราก ความไม่แน่นอน และบอกตัวเองว่าเหตุการณ์เช่นนี้ คงต้องเกิดขึ้นกับเรา

ทอดผ้าบังสุกุล

เสียงพระบริกรรม ในขณะพิจารณาผ้าบังสุกุลว่า

อะนิจจา วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน
อุปปัชชิตตะวา นิรุชฌันติเตสัง วูปะสะโม สุโข

แปลความว่า.ร่างกายนี้หนอ ไม่เที่ยงแท้แน่นอน มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแตกสลายไป เป็นธรรมดา การพิจารณาร่างกายให้เห็น เป็นธรรมดา นั่นแหละหนาคือ ความสงบสุข

บทพิจารณาบทนี้ ถ้ามีในใจใคร ถ้าสิ้นลมหายใจไปดูไม่จำเป็นที่จะให้พระรูปใด ต้องมาพิจารณา แต่ดูเหมือนว่า คนไม่กล้าพิจารณาเพราะกลัวว่า จะตายไว

ดอกไม้จันทน์

ดอกไม้จันทร์นับพันดอก ที่เหล่าญาติมิตรวางไว้ เพื่อไว้อาลัยกับการจากไป ของบุคคลที่ตนรัก
บางคนวางลงทั้งน้ำตา ในใจบ่นว่า ไม่น่าเลย
บางคนวางลงพร้อมเสียงร้องไห้ ในใจบ่นว่า ทำไมต้องตายด้วย
บางคนวางลงพร้อมด้วยความสลดใจ ในใจบ่นว่า เราก็จะเป็นเช่นคุณ
บางคนวางลงพร้อมใจสงบนิ่งในใจ ไม่ได้คิดอะไรเลย
ดอกไม้จันทร์ดอกนั้น ไม่คู่กับตัวฉันในวันที่นี้ แต่จะคู่กับฉัน ในวันที่ฉันสิ้นลมหายใจ...

เหรียญบาทในปากผี

การกระทำที่เกิดจากความคิด หวังให้ผู้ตายได้มีเงินใช้ จึงปรากฏเหรียญบาทในปากผี มนุษย์ผู้มีสติปัญญา มองเห็นว่านี่หนามนุษย์ ในที่สุด แม้เงินที่ใส่ไว้ในปาก ก็ไม่อาจเอาไปได้
แต่ทำไมหนอชีวิตทั้งชีวิตจึงบ้าแต่กับคำว่า เงิน อยู่ตลอดวันตลอดคืน เงิน คือพระเจ้าที่สามารถดลบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ไม่อาจดลบันดาลให้มนุษย์พบแสงสว่างแห่งความจริงได้ว่า...
ชีวิต คือ ความทุกข์ เพราะว่าเงินคือสิ่งโกหกมนุษย์อยู่ตลอดเวลาว่า ชีวิต คือ ความสุข

ดูหน้าครั้งสุดท้าย

ต่างอยากเห็นหน้าว่า เวลานี้เจ้าเป็นเช่นไร พอเปิดโลงไป ทุกคนต่างเมินหน้าหนี ถึงจะสวยงดงามดังเทพี ก็คงไม่มีใครที่จะสนใจเจ้า ดูหน้าศพแล้วย้อนดูหน้าเรา คนมีชีวิตเขลาหรือไม่หนอ พยายามเสริมแต่งตามคำยอ เพื่อลวงล่อให้คนชม แท้ที่จริงเห็นความจริงมั้ย ว่าสวยสักปานใด พอเปิดโลงไป ทำไมต้องเมินหน้าหนี
 ความสวย คง แพ้ความดี
พึงทำให้มีดีจะสวยตลอดกาล

กลิ่นศพ

ในสมัยยังมีชีวิตอยู่ สู้แสวงหาเครื่องสำอางที่มีราคา เพียงเพื่อว่าให้ร่างกายข้าสวยสดงดงาม
มาบัดนี้เพียงสิ้นลมไม่กี่นาที กลิ่นที่ดีก็สูญสิ้นไป
คนเคยชมเจ้าว่างามสง่า กลิ่นกายาเจ้าแสนหอม
คนเคยยื้อแย่งและรุมตอม มาบัดนี้จ้างก็ไม่ยอมเข้าชิดกายา แถมยังบ่นว่าเจ้าช่างเหม็นจัง คิดบ้างเถอะว่าอย่าบ้าไปกับสังขาร อย่าหลอกตัวเองเลยนงคราญ อีกไม่นานก็ทุเรศสิ้นดี
เพียรสร้างตัวให้มีแต่ความดี กลิ่นเจ้านี้ก็จะหอมมั่นคง ชั่วนิจนิรันดร์ โดยไม่มีวันจืดจาง

เมรุ

เมรุมาศสวยบาดตา รู้มั้ยว่าเราไว้ทำอะไร  ชีวิตก็แค่นี้ ถ้าไม่ฝังก็เผา เราเคยเดินขึ้นเมรุเพื่อวางดอกไม้จันทร์นับครั้งไม่ถ้วน วางดอกไม้ลงปลงใจไม่ได้ว่า
เราก็จะเป็นเช่นเขา
เดินลงจากเมรุเริ่มคิดโครงการถึงเรื่องงานและเรื่องเงิน คิดจนเพลินจนลืมคิดว่า
คนเราไม่พ้นเมรุ

ไฟ

ไม่กี่นาที ร่างกายนี้ที่ไร้วิญญาณ ก็ถูกไฟเผาผลาญจนเป็นเถ้าถ่านโดยสิ้นเชิง แต่นั้นไฟมันเผาตอนตายแล้ว ในตอนที่มีชีวิตอยู่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
มนุษย์ที่ยังไม่พ้นจากกิเลสตัณหา ย่อมถูกกระแสแห่งไฟโทสะ ไฟโมหะ ไฟโลภะ เผาอยู่ตลอดเวลา
ยอมไม่ได้ ให้อภัยไม่ได้ รู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก จมปลักกับกระแสแห่งโลกีย์ จนใคร ๆ เตือนไม่ได้
ปรารถนาจนนอนไม่หลับดูซิถูกเผาแค่ไหน น่าสงสารใจดวงนี้จัง

กระดูก

สัปเหร่อ บรรจงเก็บกระดูกใส่ถาดเพื่อนำไปเก็บไว้ มองดูไม่เห็นมีอะไรคงเห็นเพียง เศษกระดูก
ชีวิตคนถ้ากระดูกจะมีค่าก็ต่อเมื่อ  ชีวิตทั้งชีวิตเป็นคนดี ถ้าไร้ซึ่งความดี กระดูกกองนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับกระดูกของสัตว์ บางครั้งยังสู้กระดูกสัตว์ไม่ได้ เห็นกระดูกในถาดอาจเห็นธรรมในใจได้ถ้าคิดเป็น ไม่สักแต่ว่าเห็น ว่านั่นคือกระดูกคน

ที่เก็บกระดูก

ยามมีชีวิตอยู่ ใครก็รู้ว่า ที่อยู่เจ้าใหญ่โต มาบัดนี้ที่อยู่เจ้าช่างคับแคบเหลือเกิน แสวงหา กอบโกย คดโกงต่อสู้เพื่อให้ได้มาทุกวิถีทาง ในที่สุดแห่งชีวิต ก็แค่นี้ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม

ฝากไว้สะกิดใจ

คนที่ไม่เคยบอกความจริงกับชีวิตตัวเองว่า เดี๋ยวก็ตาย เป็นคนที่น่าเป็นห่วงยิ่งนัก
คนที่ไม่ยอมรับความจริง บนความจริงที่ปรากฏกับชีวิต เป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในโลก

หวังว่าทุกคนที่ได้อ่านแล้วจะเข้าใจชีวิตมากยิ่งขึ้น และใช้เป็นสติในการดำรงชีวิตต่อไป

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับการทำงานอย่างมีสุข

       หากเจ้าหน้าที่ท่านใดกำลังมีความรู้สึกว่า “เบื่อ เบื่อ เบื่องานจังเลย ทำไมงานมันวุ่นวายแบบนี้เนี่ย
ไม่มีความสุขเลยจริง ๆ” รอน้ำลงทำใจให้สบาย หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆเจริญสติสักครู่และมาอ่านบทความนี้กันถึงอย่างน้อยตัวท่านเองนั้นยังมีความรู้สึกอันแรงกล้าว่ายังอยากจะชนะปัญหาอุปสรรคขวากหนามที่ขวางทางอยู่บนหนทางข้างหน้าและมีจิตวิญาณของนักสู้อยู่ในสายเลือดแล้วละก็ บทความนี้ส่วนงานคุ้มครองจริยธรรมขอเสนอเพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณได้ก้าวผ่านความทุกข์และความเบื่อหน่ายที่ว่ายเวียนอยู่ในวิถีการทำงานของคุณไปได้ด้วยเคล็ดลับการทำงานอย่างมีความสุขที่สามารถปฏิบัติได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

๑.มองให้เห็นคุณค่าของงานราชการถือเป็นงานที่มีความสำคัญของประเทศแต่หากว่าคำว่าลาออก
นั้น เป็นการคิดสั้น ด่วนสรุปเกินไป และตัวท่านเองนั้นยังมีความรู้สึกอันแรงกล้าว่ายังอยากจะชนะปัญหา
อุปสรรคขวากหนามที่ขวางทางอยู่บนหนทางข้างหน้า และมีจิตวิญญาณของนักสู้อยู่ในสายเลือดแล้วล่ะก็บทความนี้ก็ขอเป็นตัวช่วยให้คุณได้ก้าวผ่านความทุกข์และความเบื่อหน่ายที่ว่ายเวียนอยู่ในวิถีการทำงานของคุณไปได้ ด้วยเคล็ดลับการทำงานอย่างมีสุขที่สามารถปฏิบัติได้ง่ายๆ ดังนี้คือ
     ประการแรก เริ่มงานอย่างสดชื่นกระปรี้กระเปร่าและและปลอดโปร่ง ซึ่งวิธีการที่จะกระตุ้นความสด
ชื่นแจ่มใสให้พร้อมลุยกับงานอันหนักหน่วงในแต่ละวันนั้นก็มีมากมายหลากหลายวิธี เช่น เริ่มจากการยิ้มให้กับตัวเองในตอนอรุณรุ่ง เมื่อเราตื่นมาด้วยรอยยิ้มโลกนี้ก็จะสว่างสดใสขึ้นทันตา คิดถึงแต่เรื่องดีๆ และวางแผนไว้ในหัวอย่างคร่าวๆ ว่าวันนี้เราจะทำอะไรไว้ก่อนเนิ่นๆ เช้านี้จะทานอะไรดีนะ พอไปถึงที่ทำงานเราจะทำอะไรบ้าง ซึ่งการคิดทบทวนกับตนเองเช่นนี้จะเป็นการกระตุ้นให้สมองเตรียมพร้อมรับกับงาน และยังช่วยไม่ให้เราหลงลืมงานที่ต้องสะสางและรับผิดชอบอีกด้วยเมื่อเราอาบน้ำลองใช้สบู่ หรือครีมอาบน้ำที่มีกลิ่นหอมละมุน เช่นกลิ่นดอกไม้ ผลไม้ จำพวกกุกลาบแอปเปิ้ล มะลิ พร้อมกับอาบน้ำเย็นให้เนื้อตัวได้รับความสดชื่น ซึ่งกลิ่นหอมๆ เหล่านี้ก็มีส่วนช่วยให้เราคลายความเครียด ได้เป็นอย่างดี
และเมื่อเรารู้สึก ปลอดโปล่ง กระปรี้กระเปร่า ตื่นตัว แล้วเราก็จะมีความคิดที่เฉียบแหลม พร้อมรับกับปัญหาได้อยู่เสมอ
     ประการที่สอง ปรับปรุงบุคลิกภาพให้เหมาะสมกับตำแหน่งและลักษณะงาน ซึ่งการที่เรามี
บุคลิกภาพที่ดี จะมีส่วนช่วยอย่างมากทีเดียวที่จะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ เคารพ ชื่นชมในตัวเรา ซึ่งเรา
จะต้องพิจารณาก่อนว่า เรากำลังทำงานอยู่ในส่วนใด ตำแหน่งไหน และเราควรจะปรับปรุงบุคลิกภาพของเราให้ดีขึ้นในด้านไหนได้บ้าง เช่น การเพิ่มความมั่นใจในตนเอง ลักษณะการพูดจาที่ไพเราะ การเดิน ยืน นอนหรือ นั่ง และที่สำคัญคือควรมีรอยยิ้มประดับไว้อยู่บนใบหน้าเสมอๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราดูเป็นมิตร น่าเข้าหาเข้าใกล้ โดยที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงให้เหนื่อยยากเลยแม้แต่น้อย
     ประการที่สาม สนทนาแลกเปลี่ยนกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานอยู่เสมอการทำงานส่วนใหญ่นั้นมักจะมีลักษณะการทำงานเป็นทีม หรือมักมีผู้ร่วมงานด้วยกันอยู่เสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องรู้จักปรับตัวเข้าหาผู้อื่นบ้าง ไม่ควรทำตัวเฉยเมย ดื้อด้าน ด้านชา จองหอง อวดดีหรือคิดว่าตัวเรานั้นเก่ง เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ไปเสียหมด จึงควรรู้จักเข้าหาผู้อื่นโดยอย่ารีรอ เริ่มจากการทักทายปราศรัย เช่น “พี่เป็นอย่างไรบ้างครับ?” , “น้องกินอะไรมาหรือยัง?” ชื่นชม “วันนี้ใส่เสื้อสวยจังนะเธอ”, “มาแต่เช้าเลยนะครับ” สอบถาม “พี่ครับงานตรงนี้มันต้องทำอย่างไรบ้างครับ”, “พี่ว่าควรจะแก้งานตรงไหนดีคะเนี่ย” รวมถึง รู้จักกล่าวคำขอโทษ และ ขอบคุณให้เป็น สิ่งเหล่านี้จะช่วยทะลายกำแพงที่กั้นขวางระหว่างเราและบุคคลอื่นได้ และช่วยให้งานของเราราบรื่นขึ้น
     ประการที่สี่ศึกษาวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม ซึ่งลักษณะโดยทั่วไปของการทำงาน
แล้ว ในแต่ละวันเรามักจะได้พบเจอกับปัญหาแปลกๆ ใหม่ๆ ทั้งเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง มาคอยท้าทายเราอยู่ให้ปวดหัวกลุ้มใจเล่น ดังนั้นเราจึงควรรู้จักที่จะตั้งรับ แก้ไขปัญหาให้เป็น และอย่าใช้แค่ความเคยชินทำงาน ซึ่งเราต้องรู้จักที่จะเรียนรู้ ศึกษา ตื่นตัวเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้ทัน พร้อมกับเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นมาด้วยจิตใจที่เข้มแข็งไม่ท้อถอย พึงระลึกไว้ว่า ทุกปัญหานั้นมีทางแก้ทางออกอยู่เสมอ
     ประการที่ห้าใส่ความกระตือรือร้นและพลังวังชาลงไปในงาน ทั้งสองอย่างนั้นมีความสำคัญที่
เกี่ยวเนื่องกันทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งเราควรจะรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยการทานอาหารให้ครบทั้งห้าหมู่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ รวมไปถึงดื่มน้ำให้เพียงพอ ใส่ใจกับการออกกำลังกายบ้าง อย่างน้อยอาทิตย์ละสามวัน ครั้งละครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และพยายามรักษาตนไม่ให้เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยจนเกินไป เพราะจะส่งผลต่อจิตใจและประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลง ได้ อีกทั้งควรมีความกระตือรือร้น ไม่เก็บงานดองไว้ และค่อยทำแบบสุกเอาเผากิน หรือทำแบบเพียงให้ผ่านหรือขอไปที เพราะจะทำให้ติดเป็นนิสัย เกิดความผิดพลาดในเนื้องานได้ง่าย หรือ อาจทำงานไม่ทันส่งตามกำหนด
    ประการที่หกหมั่นบันทึกเพื่อกันลืมสำหรับตนเอง เมื่อมีงานเข้ามามาก หลายชิ้นในเวลาพร้อมๆ กันอาจทำให้เราเกิดความหลงลืม สับสนใจ วิธีการจดบันทึกไว้ในสมุดงาน หรือการเขียนบอกไว้ในกระดาษโน้ตหรือกระดาน ก็จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้เราจำได้ และสามารถจัดลำดับงานได้ว่า สิ่งใดควรทำก่อน สิ่งใดควรทำที่หลัง และจะทำให้การทำงานนั้นรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งในบางครั้งยังเป็นสิ่งที่อ้างอิงได้ในภายภาคหน้าอีกด้วย
     ประการที่เจ็ดหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำการหรืองานใดก็ตามองค์ความรู้ย่อม
เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมให้เราทำงานนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างเสริมปัญญาเป็นดังขุมทรัพย์ที่จะติดตัวเราไปได้ตลอด ดังนั้นเราจึงควรที่จะใฝ่หาและศึกษาค้นคว้าความรู้ที่เกี่ยวข้องในตัวงานนั้นเพิ่มเติม โดยการอ่าน และการรับฟังผู้อื่นเพื่อเปิดโลกทัศน์ของเราให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น หากมีข้อสงสัยก็โทรไปสอบถามผู้รู้เพื่อให้ได้ความกระจ่าง อย่าเกรงใจจนทำให้เราติดอยู่กับปัญหา หรือแก้ไขปัญหาไปอย่างผิดทิศผิดทางเพราะความไม่รู้จริง ผู้ที่หมั่นเรียนรู้อยู่เป็นวิสัยย่อมมีโอกาสก้าวหน้าก้าวไกลไปได้มากกว่าผู้ที่ทำตัวเป็นแก้วที่ปริ่มน้ำ ไม่ยอมรับความรู้ใหม่ๆ หรือรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
     ประการที่แปดหากต้องการคลายเครียดลองหาหนังสือธรรมะ หรือหนังสือแนวให้กำลังใจมาอ่าน
เพราะหนังสือธรรมะ หรือหนังสือแนวให้กำลังใจดีๆ สักเล่ม มักจะเป็นหนังสือที่ให้แง่คิด ปลุกไอเดีย เพิ่มเติมกำลังใจช่วยให้เรามีสติ ได้หยุดคิดทบทวนไตร่ตรอง และขจัดปัดฝุ่นในใจอันทุกเศร้าหมองหม่นของเราไปตัวอย่างหนังสือแนวธรรมะและให้กำลังใจที่น่าสนใจเช่น หนังสือชุดเข็มทิศชีวิต หรือของท่าน ว.วชิระเมธีท่านพุทธทาส ภิกขุ เป็นต้น
     ประการที่เก้าอย่าจริงจังกับงานและใช้ชีวิตอย่างเคร่งเครียด หลายๆ ท่านคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า
“ชีวิตของคนเรานั้นสั้นนัก” ดังนั้นเราจึงควรใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพื่อมอบเป็นรางวัลให้แด่ตนเอง การงานนั้นมีไว้ให้เราจัดการ บริหารให้ลงตัว ไม่ได้มีไว้เพื่อแบกหรือเอาเก็บมาคิดมาเครียดจนทำให้เรารู้สึกทุกข์ เมื่อมีงาน มีปัญหาที่ต้องสะสางเราก็ควรทำมันให้ดีที่สุด พยายามให้เต็มที่ แต่ถ้าทำแล้วพยายามแล้วไม่ได้ผล ก็ควรรู้จักที่จะปล่อยวาง และทำใจให้ได้ อย่าเอาชีวิตทั้งหมดของเราไปผูกกับปัญหา หรืองาน จนเกินขอบเขต ซึ่งความเครียดไม่เคยส่งผลดีต่อตัวเราเอง รวมถึงอาจทำให้คนรอบข้างเรา และคนที่เรารักก็ต้องพลอยทุกข์ใจตามไปด้วย วิธีผ่อนคลายนอกจากจะอ่านหนังสือธรรมะดีๆ สักเล่มดังที่ได้กล่าวไว้แล้ว การฟังเพลง หรือทำ
กิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งที่เราสนใจหรือชื่นชอบ เช่นเล่นกีฬา ถักไหมพรม ดูภาพยนตร์เรื่องโปรด หรือ
ทำอาหารอร่อยๆ ทาน ก็ จะเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมความสุขและสีสันให้แก่ชีวิตตนเองได้
     ประการที่สิบแบ่งงานออกเป็นส่วนๆ และลำดับความสำคัญของงาน ซึ่งเป็นอีกประการหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขและราบรื่น เพราะหากเราแบ่งงานเป็น เราก็จะไม่ต้องเสียเวลากับงานที่ไม่สำคัญมากจนเกินไป และมีเวลาไปทำงานชิ้นใหญ่กว่าหรือสำคัญกว่าแทน อันมีผลให้งานนั้นเสร็จเร็ว ไม่วุ่นวายปวดหัว อาจเริ่มจากการแยกงานว่าเป็นประเภทใด เหมาะกับใคร ส่งเมื่อไหร่ ถ้างานเร่งด่วนก็ต้องรีบทำงานไหนช้าได้ ก็ จัดเตรียมไว้และเก็บพักเอาไว้ก่อนได้ เป็นต้น และเมื่องานเสร็จแล้วก็ควรเผื่อเวลาเอาไว้ตรวจทานความถูกต้องอีกรอบหนึ่งด้วยก็จะเป็นการดีซึ่งหากเราทำงานได้ตากำหนดเวลาและมีความถูกต้องเราก็จะสบายใจ อีกประการหนึ่งคือ เราควรจัดเก็บข้อมูล เอกสาร อุปกรณ์การทำงานต่างๆ ไว้ให้เป็นที่เป็นทาง ก็จะช่วยเสริมให้ทำงานได้รวดเร็วว่องไวมากขึ้นและประการสุดท้ายก็คือ กำหนดเวลางานและเวลาพักผ่อนให้สมดุลชัดเจน เนื่องจากการพักผ่อนที่เพียงพอจะทำให้เรามีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี หากวันนี้เราอดนอน นอนไม่เต็มอิ่ม เมื่อเราไปทำงานเราก็จะง่วงซึม ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้บ่อยๆ ก็จะทำให้เรารู้สึกเกียจคร้าน เบื่อหน่าย ได้ ดังนั้นจึงควรพักผ่อนให้เป็นเวลา ไม่นอนดึกจนเกินไป ซึ่งการพักผ่อนน้อยยังเป็นสาเหตุทำให้ร่างกาย
อ่อนแอลง เจ็บป่วยได้ง่ายอีกด้วย จึงควรปรับสมดุลร่างกายให้เหมาะสม รวมถึงถ้าเจียดเวลาสักเล็กน้อยนั่งสมาธิด้วยสักวันละยี่สิบถึงสามสิบนาที ก็จะช่วยเสริมสร้างให้เรามีสติปัญญาที่เฉียบแหลมและมีสติในการทำงานมากขึ้น รวมถึงอาจทำให้เราได้ไตร่ตรองถึงปัญหา พิเคราะห์ถึงสาเหตุและค้นพบวิธีแก้ปัญหานั้นได้ด้วยตนเองข้อแนะนำหรือเคล็ดลับทั้งสิบเอ็ดประการนี้ หากท่านได้ลองนำไปปฏิบัติใช้ เชื่อว่าจะช่วยให้ท่านนั้นมีความสุขกับชีวิตในการทำงานมากขึ้นได้อย่างแน่นอนขอขอบพระคุณข้อมูลส่วนหนึ่ง

จากนิตยสาร First Magazine
ที่มา : http://women.sanook.com/work

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Samsung Galaxy gear เปิดตัวแล้ว

Samsung Galaxy Gear 8,900 บาท เปิดขายวันแรก ในงาน TME 2013


เปิดตัวย่อมๆ ในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ กับ Samsung Galaxy Gear นาฬิกาอัจฉริยะ ที่เคาะราคาแล้วที่ 8,900 บาท โดยมีให้เลือกหลายสีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Jet Black, Rose Gold, Widl Orange และ Mocha Gray สำหรับรายละเอียดการวางจำหน่าย Samsung Galaxy Gear นั้น ติดตามกันได้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2013 Showcase ต้นเดือนตุลาคมนี้


และเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ทีมงาน techmoblog ได้มีโอกาสไปร่วมงานที่ซัมซุงได้จัดขึ้นเพื่อให้ได้ เข้าไปร่วมทดสอบ Samsung Galaxy Note 3 เป็นกลุ่มแรก และ นำมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันไปแล้วนั้น ล่าสุด ไม่ใช่เพียงแค่ Samsung Galaxy Note 3 เท่านั้น ในวันดังกล่าว ทีมงาน techmoblog ยังได้มีโอกาส นำเอา Samsung Galaxy Gear มารีวิวด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในวันนี้ เราจะมาดูกันครับว่า Samsung Galaxy Gear นาฬิการอัจริยะ ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์เสริมใหม่ล่าสุดจาก Samsung นั้น จะสามารถใช้งานได้ดีแค่ไหน และ จะมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง ลองมาชมกันเลยครับ

สเปค Samsung Galaxy Gear

- ขนาดตัวเครื่อง 36.8x56.6x11.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเครื่อง 73.8 กรัม
- ชิปประมวลผล ความเร็ว 800 MHz
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 512 MB
- หน้าจอขนาด 1.63 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 320 x 320 พิกเซล
- กล้องดิจิตอล ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ โฟกัสภาพอัตโนมัติ
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.0
- ระบบ Accelerometer และ Gyroscope
- หน่วยความจำสำหรับเก็บข้อมูลขนาด 4 GB
- แบตเตอรี่ขนาด 315 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน

ข้อมูลด้าน ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Gear



สำหรับหน้าจอของ Samsung Galaxy Gear นั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 1.63 นิ้ว โดยเป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED ความละเอียด 320 x 320 พิกเซล ซึ่งถือว่าเป็นหน้าจอที่มีความคมชัดพอสมควร


เมื่อเราสวม Samsung Galaxy Gear ไว้ที่ข้อมือ จะพบว่า ลำโพงภายนอก (Speaker) จะอยู่ทางด้านหลังของตัวเครื่อง (ดังภาพ) ซึ่งลำโพงบน Samsung Galaxy Gear นั้นถือว่า มีเสียงที่ดัง และ ชัดเจนดี


ด้านข้างของตัวเรือน นาฬิกา จะมีปุ่ม Sleep/Wake หรือปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ที่ทำงานเหมือนกับ ปุ่มเปิด-ปิด บนสมาร์ทโฟน แต่ในความเป็นจริง เราอาจไม่จำเป็นต้องกดปุ่มนี้บ่อยนัก เนื่องจากตัว Samsung Galaxy Gear มีเซ็นเซอร์ ตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อคุณ ยกแขนขึ้นมาในระดับสายตา หน้าจอ Samsung Galaxy Gear จะเปิดและพร้อมใช้งานทันที


นอกจากนี้ ด้านข้างของสายนาฬิกา จะมีกล้องดิจิตอล ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Auto-focus ให้ได้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งด้านล่างของบทความ รีวิว Samsung Galaxy Gear จะมีตัวอย่างภาพถ่าย ที่ได้จาก Samsung Galaxy Gear มาให้ได้ชมกัน


ด้านหลังของตัวเครื่อง จะสังเกตได้ว่า มีจุดกลมๆ ทั้งหมด 5 จุด อยู่บริเวณกลางของตัวเรือน ซึ่งบริเวณดังกล่าวคือ จุดที่จะเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์ สำหรับชาร์จไฟนั่นเอง


จากภาพด้านบนนั้น เป็นภาพโดยรวมของ สายนาฬิกา ซึ่งสามารถปรับระดับได้หลายระดับ ตามต้องการ


และ อุปกรณ์ที่เห็นดังภาพด้านบนนั้น ก็คือ อุปกรณ์ สำหรับชาร์จไฟให้กับ Samsung Galaxy Gear นั่นเอง


โดยเพียงแค่เรา เปิดฝาอุปกรณ์ ชาร์จไฟขึ้นมา (ดังภาพ) แล้วนำตัว Samsung Galaxy Gear สวมเข้าไป ตัวนาฬิกา ก็จะพร้อมสำหรับการชาร์จไฟแล้วครับ


ส่วนด้านหลัง จะเป็นพอร์ต microUSB ซึ่งเราสามารถเสียบสายชาร์จ เพื่อชาร์จไฟให้กับ Samsung Galaxy Gear ของคุณได้เช่นกัน

แอพพลิเคชั่น และ การใช้งาน Samsung Galaxy Gear



สำหรับหน้าจอหลัก ที่จะพบได้ตั้งแต่เปิดเครื่องนั้นก็คือ หน้าจอสำหรับบอกเวลา และ สภาพอากาศ โดยข้อมูลสภาพอากาศ จะแสดงก็ต่อเมื่อ เราทำการเชื่อมต่อกับ Samsung Galaxy Note 3 เรียบร้อยแล้ว


Samsung Galaxy Gear มีฟังก์ชั่นในการแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ที่เกิดขึ้นบน Samsung Galaxy Note 3 ซึ่งเมื่อมีการแจ้งเตือน ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ, อีเมล หรือ การแจ้งเตือนบนโลกโซเชียล คุณก็สามารถตรวจสอบได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องยกสมาร์ทโฟนของคุณขึ้นมาบ่อยๆ


Samsung Galaxy Gear มาพร้อมกับฟีเจอร์ S Voice หรือระบบสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งสามารถใช้งานได้แบบเดียวกันกับ S Voice ที่อยู่บนสมาร์ทโฟนเลยนั่นเอง


นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่น สำหรับ บันทึกเสียงให้ได้ใช้งานกันอีกด้วย โดย เสียงที่ได้จากการบันทึกด้วย Samsung Galaxy Gear นั้นถือว่า มีความคมชัดค่อนข้างสูง


แอพพลิเคชั่น Gallery เป็นแอพพลิเคชั่น สำหรับการจัดการภาพถ่าย ที่ถ่ายด้วย Samsung Galaxy Gear คุณยังคงสามารถ แชร์ภาพ ไปเก็บไว้บน Samsung Galaxy Note 3 ได้ จากหน้าจอนี้


สำหรับคนที่ชื่นชอบการฟังเพลง คุณจะสามารถ ควบคุมเครื่องเล่นเพลง บน Samsung Galaxy Note 3 ผ่าน Samsung Galaxy Gear ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการ เล่นเพลง หรือหยุด รวมถึง การปรับเสียงด้วยเช่นเดียวกัน


Samsung Galaxy Gear ยังคงมีแอพพลิเคชั่น ที่คอยนับจำนวนก้าวที่คุณเดินได้ด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับ แอพพลิเคชั่น ด้านสุขภาพต่างๆ มากเลยทีเดียว


นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy Gear นั้น มีการรองรับการใช้งาน ภาษาไทย ได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ยังคงสามารถเลือกแสดงผลในภาษาอื่นๆ ได้อีกมากมาย


คุณสามารถ ค้นหารายชื่อผู้ติดต่อ ที่อยู่บน Samsung Galaxy Note ผ่าน Samsung Galaxy Gear ได้ตลอดเวลา โดยสามารถ สัมผัสที่รายชื่อนั้นๆ เพื่อทำการโทรออกได้ทันที


นอกจากนี้ ยังมีการแสดง รายการ โทร ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งสายที่รับ และ ไม่ได้รับ รวมถึง การแจ้งเตือน ข้อความต่างๆ


โดยแอพพลิเคชั่นที่เห็นด้านบนทั้งหมด เป็นเพียง แอพพลิเคชั่น เริ่มต้น ที่ถูกติดตั้งมาให้ตั้งแต่แรกเท่านั้น เรายังคงสามารถดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น สำหรับ Samsung Galaxy Gear มาติดตั้งในภายหลังได้อีกด้วย

Samsung Galaxy Gear จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับ สมาร์ทโฟนในรุ่นที่รองรับ เท่านั้น (Samsung Galaxy Note 3 และ อื่นๆ ในอนาคต)



การจะใช้ Samsung Galaxy Gear ได้อย่างสมบูรณ์นั้น จำเป็นจะต้องใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนอย่าง Samsung Galaxy Note 3 หรือแท็บเล็ต Samsung Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) เท่านั้น รวมถึง Samsung Galaxy S4 และ Samsung Galaxy Note 2 ในอนาคต เนื่องจาก Samsung Galaxy Gear จะทำงานได้ครบถ้วน ก็ต่อเมื่อ ทำการ Sync ผ่านแอพพลิเคชั่น Gear Manager แล้ว นั่นเอง


ซึ่งแอพพลิเคชั่น Gear Manager นั้นจะช่วยให้เราสามารถตั้งค่าต่างๆ ของ Samsung Galaxy Gear ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของ นาฬิกา


รวมถึงการจัดการแอพพลิเคชั่น และ ดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น ไปติดตั้งบน Samsung Galaxy Gear เพิ่มเติม ซึ่ง คุณจะต้องทำงานผ่านแอพพลิเคชั่น Gear Manager เท่านั้น


นอกจากนี้ คุณยังคงสั่งให้ Samsung Galaxy Gear ส่งเสียง ในกรณีที่คุณอาจจะลืมว่า วาง Samsung Galaxy Gear เอาไว้ที่ไหน รวมถึง สั่งให้ Samsung Galaxy Note 3 ส่งเสียง โดยสั่งงานผ่าน Samsung Galaxy Gear ได้ด้วยเช่นเดียวกัน


และแน่นอนว่า ทุกการตั้งค่าของ Samsung Galaxy Gear คุณจำเป็นต้องใช้แอพพลิเคชั่น Gear Manager ในการจัดการ จึงเป็นสาเหตุหลัก ที่จำเป็นจะต้องใช้งานคู่กับ Samsung Galaxy Note 3 นั่นเอง

กล้องดิจิตอลบน Samsung Galaxy Gear



สำหรับ Samsung Galaxy Gear นั้นมาพร้อมกับ กล้องดิจิตอลความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล โดยภาพด้านบนนั้น เป็นภาพ อินเทอร์เฟสแอพพลิเคชั่นกล้องถ่ายรูป โดยคุณเพียงแค่แตะลงไปบนหน้าจอ Samsung Galaxy Gear ก็จะทำการโฟกัสภาพ อัตโนมัติ และ ถ่ายภาพในทันที


ซึ่งเรายังคงสามารถตั้งค่า การถ่ายรูป ในแบบต่างๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ขนาดรูปถ่าย โหมดโฟกัส และ ฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย โดยเมื่อเราถ่ายภาพแล้ว เรายังคงสามารถส่งภาพจาก Samsung Galaxy Gear ไปเก็บบน Samsung Galaxy Note 3 ได้ด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างภาพถ่าย ที่ได้จากการถ่ายด้วย Samsung Galaxy Gear


คลิ๊กที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดจริง แบบไม่ปรับแต่งใดๆ

คลิ๊กที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดจริง แบบไม่ปรับแต่งใดๆ

คลิ๊กที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดจริง แบบไม่ปรับแต่งใดๆ

คลิ๊กที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดจริง แบบไม่ปรับแต่งใดๆ

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Gear

- สามารถควบคุม Samsung Galaxy Note 3 ได้โดยไม่จำเป็นต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาบ่อยๆ
- มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล ที่ถือว่าชัดเจนพอสมควร
- กล้องดิจิตอลมาพร้อมกับระบบ ออโต้โฟกัส
- มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Super AMOLED ที่มีความคมชัด
- มีหน่วยความจำในตัวเครื่อง 4 GB ถือว่าเพียงพอสำหรับการถ่ายภาพ และ ติดตั้งแอพพลิเคชั่น
- สามารถใช้งานโทรศัพท์ผ่าน Samsung Galaxy Gear ได้ โดยตรง แต่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ไว้ด้วย
- รองรับการใช้งาน S Voice สำหรับ การสั่งงานด้วยเสียง
- สามารถควบคุมเครื่องเล่นเพลง ผ่าน Samsung Galaxy Gear ได้
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เพิ่มเติมได้ในภายหลัง

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy Gear

- ราคาเปิดตัวค่อนข้างสูง โดยอยู่ที่ 8,900 บาท
- จำเป็นต้องใช้งานกับร่วมกับสมาร์ทโฟนเท่านั้น
- สมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับในตอนนี้มีเพียง Samsung Galaxy Note 3 และ Samsung Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) โดยในอนาคต จะสามารถรองรับกับ Samsung Galaxy S4 และ Samsung Galaxy Note 2 แต่ ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ สมาร์ทโฟนระดับล่าง - กลาง

สรุปการทดสอบ Samsung Galaxy Gear



สำหรับ Samsung Galaxy Gear นั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์เสริม ที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้งาน Samsung Galaxy Note 3 ได้อย่างสะดวกสบาย ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเครื่องเล่นเพลง การตรวจสอบ การแจ้งเตือนต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่การโทรออกผ่าน Samsung Galaxy Gear นอกจากนี้ Samsung Galaxy Gear เอง ยังมาพร้อมกับ กล้องดิจิตอล ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล ที่สามารถใช้งานได้ ในทุกเวลาที่คุณต้องการ โดยสำหรับใครที่กำลังสนใจ Samsung Galaxy Gear อยู่ในตอนนี้ ก็คงจะต้องรอกันอีกสักนิด เนื่องจาก Samsung Galaxy Gear จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในงาน Thailand Mobile Expo 2013 ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ นั่นเอง ส่วนในเรื่องของราคานั้น ก็จะอยู่ที่ 8,900 บาท นั่นเองครับ
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ บน Samsung Galaxy Gear

สำหรับฟีเจอร์ที่สำคัญ บน Samsung Galaxy Gear ก็คือ Smart Relay ครับ โดยทุกๆ ครั้งที่มีการแจ้งเตือนเข้ามายัง Samsung Galaxy Gear สามารถเปิดดูรายละเอียดดังกล่าว ยังสมาร์ทโฟนได้ โดยผ่านทาง Smart Relay นั่นเอง หรือในทางกลับกัน เมื่อใดก็ตามที่เราใช้งานบน สมาร์ทโฟน ยกตัวอย่างเช่น เลือกรายชื่อผู้ติดต่อ หรือกำลังจะโทรหาเพื่อน ก็จะแสดงผลมายัง Samsung Galaxy Gear ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ Samsung Galaxy Gear ยังมีฟีเจอร์อื่นที่น่าสนใจ ดังนี้
- S Voice สั่งการด้วยเสียง ด้วยการพูดตรงสายนาฬิกา (ที่มีไมโครโฟนบรรจุอยู่) โดยสามารถสร้าง Voice Memo, draft message, สร้างปฏิทินใหม่, ตั้งนาฬิกาปลุก หรือเช็คสภาพอากาศได้อีกด้วย
- เมื่อใดก็ตามที่ Samsung Galaxy Gear ถูกวางห่างจาก สมาร์ทโฟน เกิน 1.5 เมตร ระบบจะล็อคหน้าจอสมาร์ทโฟนให้อัตโนมัติ
- มาพร้อมแอพพลิเคชั่น S Health รองรับการวัดจำนวนก้าวที่เดิน คล้าย pedometer
- Memographer บันทึกภาพ หรือคลิปวิดีโอ ผ่านทางกล้องตรงสายนาฬิกา
โดย Samsung Galaxy Gear จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายนนี้ (ในต่างประเทศ) พร้อมกับ Samsung Galaxy Note 3 (Note III) มีให้เลือก 6 สี ซึ่งรองรับเฉพาะบน Samsung Galaxy Note 3 และ Samsung Galaxy Note 10.1 2014 Edition ส่วนบน Samsung Galaxy S4 จะต้องรออัพเดท Android 4.3 เสียก่อน



รายละเอียดเพิ่มเติม : phonearena.com











Tech your life ....  

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

มารู้จักระบบแยกเกลือกัน



หน่วยจำกัดเกลือ(Desalter)


          ถ้าน้ำมันดิบมีปริมาณเกลือติดอยู่เกิน  10lb/1000bbl  จำต้องทำการกำจัดเกลือเสียก่อนเพื่อลดปัญหา   Fouling  และ  Corrosion เมื่อน้ำมันดิบร้อนขึ้นจนถึงจุดเดือดของน้ำเกลือน้ำจะระเหยออกเหลือผลึกเกลือติดบนผิวเครื่องถ่ายเทความร้อนทำให้ถ่ายเทความร้อนได้ไม่ดี ถ้ามากเข้าก็จะเพิ่มความอุดตันของท่อน้ำมันไหลไม่สะดวกต้องลดการผลิตนอกจากนี้เกลือที่ไม่ตกผลึกติดท่อแต่หลุดเข้าไปในเตาที่อุณหภูมิสูงเกลือคลอไรด์จะแตกตัวออกเป็นไอกรดเกลือทำให้เกิดการกัดกร่อนอุปกรณ์ในบริเรณที่อุณหภูมิต่ำลงพอที่น้ำจะกลั่นตัวลงได้ ต้องมีระบบการทำให้เป็นกลางคุมไว้อีกต่อหนึ่ง  เครื่องกำจัดเกลือนอกจากจะลดปัญหาดังกล่าวลง  ยังสามารถกำจัดเกลือของโลหะบางอย่างที่ละลายอยู่ในน้ำแบบเป็นอีมัลชั่นกับน้ำมันดิบได้ด้วยซึ่งถ้าหลุดออกไปจะทำให้คาตาลิสต์ในกระบวนการต่างๆเสื่อมคุณภาพในกรณีที่น้ำมันดิบมีเกลืออยู่เกิน 20lb/1000bbl มักใช้ Two-stage desalting ถ้ากากน้ำมันที่ได้เอาไปป้อนหน่วยคาคาลิติกแคร้กกิ้ง                                  เกลือในน้ำมันดิบจะอยู่ในรูปของผลึกที่ละลายหรือแขวนลอยอยู่ในน้ำที่เกิด เป็นอีมัลชั่นกับน้ำมันดิบ  หลักการคือใช้การล้างเกลือออกจากน้ำมนโดยใช้น้ำ 3-10%  โดยปริมาตรผสมเข้ากับนั้นดิบที่อุณหภูมิ 90-150 ‘c โดยผ่าน  Mixing  Valve  เกลือจะละลายลงในน้ำจากนั้นแยกชั้นน้ำและน้ำมันออกจากกันในถังภาชนะขนาดใหญ่ มีเวลาพอที่น้ำจะแยกตัวตกลงมาโดยใช้สนามไฟฟ้าแรงสูง ( 16,000-35,000โวลท์)ช่วยในการสลายอีมัลชั่น เครื่องมีประสิทธิภาพ  90-95%สำหรับการทำชั้นเดียว  และได้ถึง 99% หรือกว่านั้นถ้าทำสองชั้นบริษัท  Petrolite  เป็นผู้นำในการผลิตหน่วย  Desalter  และสามารถออกแบบให้ใช้ได้กับน้ำมันดิบชนิดข้นและแยกยากได้ด้วย โดยทั่วไปน้ำที่ใช้ในการล้างน้ำมันดิบดังกล่าวมักมาจาก  Barometric condensers  ของหน่วยกลั่นภายใต้สุญญากาศหรือใช้น้ำเสียจากหน่วยอื่นที่มีฟินอลปนอยู่ทั้งนี้พราะฟินอลในน้ำจะละลายเข้าไปในน้ำมันดิบได้ดีเป็นการกำจัดหรือลดปริมาณฟินอลที่จะต้องถูกกำจัดในหน่วยบำบัดน้ำเสียของโรงกลั่นลงได้


วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มารู้จักกับ IQ , EQ , AQ , MQ , SQ

   
การจะฝึกฝนเด็กในยุคนี้ ต้องประกอบด้วย  IQ , EQ , AQ , MQ , SQ    
 
Qเหล่านี้คืออะไรมาดูกัน 

IQ   = INTELLIGENCE  QUOTIENT คือความฉลาดทางสติปัญญา  
 
วัดได้จากอายุสมองเทียบกับอายุจริง  ปกติควรอยู่ที่  90-110  เป็นการวัดความสามารถทางคิดวิเคราะห์ ความสามารถทางวิชาการ วัดความจำ  การอ่านเขียน คำนวณ   แต่ไม่ได้วัดด้านอื่นๆ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ , ทักษะต่างๆ ด้านการทำงาน  , ทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน  ฯลฯ 
การพัฒนา  IQ
 - 50% จากกรรมพันธุ์ ซึ่งปรับเปลี่ยนกันได้ยาก
- 50% จากสิ่งแวดล้อม  เช่น
- การเลี้ยงดู  ความรัก ความอบอุ่น เพราะฉะนั้นต้องมีเวลาให้ลูกหลาน
- อาหาร ครบห้าหมู่โดยเฉพาะ  ปลา  ถั่วเหลือง วิตามิน บี   ธาตุเหล็ก  ไอโอดีน โปรตีน
- ประสบการณ์ต่างๆจากการเล่น  ออกกำลังกาย  ทำกิจกรรมกลุ่ม  การทำงาน  การทำงานศิลปะ ดนตรี กีฬา ที่ชื่นชอบ
- ได้ฟังนิทาน(วัยเด็กเล็ก)  การได้ช่วยทำงาน  ทำกิจกรรมในเด็กโต
- การได้รับรับคำชมเชย  จะช่วยให้มองเห็นคุณค่าของตนเอง 
- ความคิดในทางบวก   มีความคิดอย่างสร้างสรรค์  จากการที่ได้รับคำชมเชยเสมอ ได้รับการยอมรับการกระทำต่างๆที่ดี
- สัมผัสกับสังคม,ชีวิตประจำวัน ฯลฯ
- อารมณ์ดี  ไม่เครียด
- ออกกำลังกาย อย่างน้อย 30 นาทีต่อวันจะช่วยให้มีสมาธิ   สดชื่น คิดอะไรได้เร็ว   อดทน ไม่ซึมเศร้า ไม่ติดยาเสพติด  
 
ปัจจัยที่มีผลลบต่อสมอง  ทำให้สมองไม่พัฒนา ได้แก่
- ความเครียด, ความกดดันต่างๆเช่นการทำการบ้านมากมาย   การบ้างานขาดการพักผ่อน,ออกกำลังกาย
- ขาดอาหารเช่นพวกโลหิตจาง
- สมองขาดการกระตุ้น หรือการใช้สมองฝึกคิดในสิ่งต่างๆ  เช่นการฝึกการแก้ปัญหา  ฝึกความคิดสร้างสรรค์  จินตนาการ   การใช้ไหวพริบ 
- มองตนเองในแง่ลบ   มองตนเองไม่มีคุณค่า  จากการถูกตำหนิทุกวัน  หรือบ่อยๆ 
- ซึมเศร้า,ทุกข์,โกรธ,วิตกกังวล  นานๆ             
- สารพิษ   ยาเสพติด   สารตะกั่ว ฯลฯ 
จะเห็นได้ว่าการพัฒนาเด็กให้เก่ง  และฉลาดจะไม่ได้ยากเย็นใดๆเลย   แต่ต้องให้มีวิธีการหลากหลายไม่ใช่ให้แต่ความรู้วิชาการอย่างเดียวที่มากมายเกินความจำเป็นจนขาดการพัฒนาด้านอื่นๆ  ซึ่งเรียนรู้วิชาการแล้วก็ลืมได้  มีวิจัยพบว่า ความรู้ของวิชาการในโรงเรียน  25% เท่านั้น ที่เรานำมาใช้ในชีวิตประจำวันจริง(รศ.พญ. ศันสนีย์  ฉัตรคุปต์)   แต่ดิฉันว่าจริงๆแล้วอาจจะไม่ถึง 10% 
 
EQ   EMOTIONAL   QUOTIENT คือความฉลาดทางอารมณ์
 
ความฉลาดทางอารมณ์สำคัญอย่างไรมีวิจัยดังนี้ 
1) มหาเศรษฐี 400 คนของโลกที่ประสบความสำเร็จ มีสมบัติพันล้านเหรียญUS  50% ไม่ได้จบปริญญาตรี 
2) งานวิจัยในรัฐ แมซซาชูเสท  ติดตามเด็ก 450 คน นาน 40 ปี ปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตไม่เกี่ยวกับ IQ ทั้งหมดแต่รวมถึง  
- ความสามารถในการจัดการกับความผิดหวัง AQ  
- การควบคุมอารมณ์ ได้ดี   EQ  
- การเข้ากับคนอื่นได้ดี SQ 
3) การวิจัยเก็บข้อมูล จากผู้จบปริญญาเอก 80 คน ทางวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่ขณะศึกษาถึง อายุ 70 ปี พบว่า  EQ และความสามารถทางสังคมทำให้ประสบความสำเร็จในวิชาชีพ และมีชื่อเสียง มากกว่าความสามารถทาง IQ 4 เท่า   
การพัฒนา EQ  คือ    
- รู้อารมณ์ของตนเอง        ]
- เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น เห็นอกเห็นใจผู้อื่นเมตตาอารีย์, ช่วยเหลือผู้อื่น, เอาใจเขามาใส่ใจเรา   
- ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ไม่หุนหันพลันแล่น  ไม่อารมณ์ค้างนาน   ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกเก่าๆ มารบกวนการทำงานปัจจุบัน   ไม่ว่ารัก โกรธ   ซึมเศร้า    โกรธแล้วไม่ผูกใจเจ็บนาน  ใจเย็นเมื่อมีสถานการณ์ยั่วยุ   จะเป็นคนที่น่าเคารพนับถือ  และจะมีคนกล้าให้คำแนะนำ   
- มีระเบียบวินัยในตนเอง , เคารพสิทธิ์ของผู้อื่น   
- รับผิดชอบต่อสังคม   มีทักษะทางสังคมดี  รู้สู้  รู้หลีก  เอาตัวรอดได้ดี  มีไหวพริบ   
- ขยันหมั่นเพียร อดทน , กระตือรือร้น  , ไม่เฉื่อยชา   มุ่งมั่น  แน่วแน่   ไม่ลดละ  
วิธีฝึก     
- มีตัวอย่างที่ดีให้เด็กเห็น อารมณ์เด็กขึ้นกับอารมณ์ผู้เลี้ยงดู     
- ไม่ต่อว่าเด็กต่อหน้าเด็กคนอื่นๆ หรือพูดเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ  หรือพี่น้อง     
- หาทางชมเชยเด็ก แม้นจะมีดีแค่หนึ่งอย่าง มีเสียสิบอย่างเราก็ต้องใช้หนึ่งอย่างนั้นมาเป็นตัวชมเพื่อช่วยพัฒนาตัวอื่นๆ    
- เวลาลูกทะเลาะกันอย่ามีอารมณ์ร่วม    
- ไม่ปกป้องมากเกินไปเพราะจะทำให้เด็กขาดทักษะ แก้ปัญหาไม่เป็น    
- ไม่ตามใจลูกมากเกินไป หรือกังวลมากเกินไป    
- ให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ถูกชมเชย มีผู้มองเห็นคุณค่า    
- เด็กอารมณ์ร้อน ต้องทำไม่รู้ไม่ชี้ ใจเย็น ไม่ต้องมีอารมณ์ร่วม         
- ฝึกหัดระเบียบวินัย ควรสร้างตั้งแต่เล็กๆเช่น 7-8 เดือน เริ่มนั่งกับที่รับประทานอาหาร    ดูทีวี ไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน   
- ฝึกทุกอย่างด้วยความรัก ไม่ใช่การบังคับแต่ด้วยเหตุผล   
- การดุ, การลงโทษ, ประณาม ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเสมอไปเพราะเด็กจะต่อต้าน   
- ทำใจให้เบิกบาน   เปิดหูเปิดตา  อย่าหมกมุ่นอยู่แต่ในบ้าน
 
AQ ( adversity  Quotient) คือความสามารถในการแก้ปัญหาและการเผชิญกับวิกฤติ
AQ   เป็นการวัดความสามารถในการจัดการกับปัญหา และวิกฤติ  ใครที่สามารถ จัดการได้ดีจะเป็นผู้นำและเป็นผู้ชนะหรือเจ้าของกิจการในโลกของปัจจุบันและอนาคต   ใครที่มี AQ  ดีจะสามารถ เปลี่ยน วิกฤติเป็นโอกาส   (Dr. Paul G   stolt )    ใครที่ไม่สามารถควบคุม  AQ ได้จะเป็นผู้พ่ายแพ้ และเป็นได้แค่ลูกจ้างหรือตกงาน
 
เทคนิคการสร้าง AQ   AQ   ความสามารถในการแก้ปัญหา / อุปสรรคเป็นกลไกลของสมอง เกิดจากการได้ฝึกฝนการแก้ปัญหาต่างๆ  การทำอะไรด้วยตนเอง การละเล่น ทั้งประสบการณ์ที่ได้ผ่านมาในชีวิต   ตั้งแต่เมื่อเยาว์วัย  
การฝึกฝน   
- การมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม   
- การฝึกทำกิจกรรมต่างๆ       
- สัมผัสกับชีวิตจริง ให้เด็กช่วยตัวเอง หัดทำงาน ตามวัย      
- ให้เด็กเผชิญกับอุปสรรคบ้าง  
- เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เริ่มให้รู้จักช่วยงานพ่อแม่ ธุรกิจของพ่อแม่ หรือหรือแม้นแต่การรับจ้างทำงานใน ช่วงวัยรุ่น  ฝึกหาประสบการณ์ตามที่ต่างๆช่วงหยุดปิดเทอม 
หลักการสร้าง  AQ มองปัญหาเป็นโอกาส
1.CONTROL ควบคุมเหตุการณ์/สถานการณ์ได้
2.OWNERSHIP ความเป็นเจ้าของ ปัญหาอยู่ที่ตัวเรา
3.REACH  คิดว่าทุกประเภท มีทางแก้ไข ไม่ใช่จบสิ้นแล้วทุกอย่าง
4.ENDURANCE   มีความทนทาน อดทน ต่อปัญหาต่างๆ มองโลกในแง่ดีไม่วู่วาม 
สรุปการเพิ่ม AQ  
- มีสติ ตลอดเวลา ใช้สติปัญญาในการแก้ไข  คิดว่าทุกอย่างมีทางออก    มองโลกในแง่ดี
- เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส 

MQ   MORAL  QUOTIENT -  จริยธรรม คุณธรรม 
วิธีฝึกฝน 
- มีตัวอย่างดีๆให้เห็น
- ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ตั้งแต่เล็กๆ ก่อนวัยอนุบาล  อาจจะเป็นในรูปนิทาน
- วัยอนุบาล ประถมต้น เล่านิทานสอนใจ  ช่วยบำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน
- ประถมปลาย  - มัธยม สอน หลักธรรม ตัวอย่างดีๆ   ช่วยบำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน โรงเรียนด้อยโอกาส ช่วยสอนหนังสือหรือช่วยดูแล รุ่นน้องๆ   ช่วยงานคุณครู  สอนเพื่อนๆที่อ่อนกว่า 
- ไม่ยอมรับพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องเช่นทำร้ายผู้อื่น พูดจาหยาบคาย ขโมย โดยเฉพาะ 0-5 ขวบ 
 
SQ  :SOCIAL  QUOTIENT   ทักษะทางสังคม  การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น
-ได้เล่นกับเพื่อน ในวัยเด็กเล็กๆ
- เด็กโต ทำกิจกรรมกลุ่ม หรือทำงานอื่นๆกับเพื่อน
- คบเพื่อนๆ ที่หลากหลาย
 
 
ข้อมูลโดย : พท.พญ. กมลพรรณ  ชีวพันธุศรี 
 ประธานเครือข่ายพ่อแม่เยาวชนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา 

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิธีการ Crack Program

การ crack หรือ การทำให้โปรแกรมมีความสามารถใช้งานได้มากขึ้น ไม่มีวันหมดอายุ และการที่เราจะ crack โปรแกรมใด ๆ ก็ลองสังเกตุไฟล์ที่เป็นตัว crack ว่ามีลักษณะใด ดังต่อไปนี้

คือ การนำเอาไฟล์ที่เรียกว่า patcher/cracker อาจจะมีชื่อแตกต่างกันออกไป แต่มีคำลงท้ายหรือมีคำว่า "patch" หรือ "crack" อยู่ เข่น WinRAR.3.x.Patch.exe, crack.exe

1. การ patch/crack

วิธีการ :
- โดยการนำไฟล์ที่เป็นตัว patch/crack ไปวางในโฟลเดอร์ที่ผ่านการติดตั้งโปรแกรม ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ c:\Progam Files\....
- แล้วเรียกใช้ตัว patcher/cracker นั้น โดยการ double click แล้วตอบตกลงการ patch
- หากมีการ match กันระหว่างโปรแกรมที่เราต้องการ patch/crack ก็จะขึ้นคำว่า ...".....Pathed/crack Succesfully"
ตัวอย่าง ถ้าเราต้องการจะ patch โปรแกรม Winrar
- เมื่อทำการติดตั้งโปรแกรมไปแล้ว ก็ให้ copy ตัว patcher ในที่นี้คือ WinRAR.3.x.Patch.exe นำไปวางใน c:\Progam Files\Winrar
- แล้วเรียกใช้งาน "WinRAR.3.x.Patch.exe"
- ให้กดคำว่า patch

หมายเหตุ:
การ crack ก็จะทำในลักษณะเดียวกัน ...หากไม่มีการนำไฟล์ไปวาง ณ ตำแหน่งที่มีการติดตั้งโปรแกรมก็สามารถทำได้ โดยเมื่อเรียกใช้ตัว patch/crack ตัว patch/crack ก็จะถามหา path เพื่อระบุตำแหน่งตัวโปรแกรมที่จะเรียกใช้งาน แต่วิธีการนี้ผมไม่ค่อยแนะนำ เพราะว่าโอกาสเสี่ยงที่หาไม่พบก็มีสูง ...แต่ขณะที่มีการติดตั้งโปรแกรมก็จดจำ path ที่แน่นอนของโปรแกรมเอาไว้ก็ดีนะครับ

2. การวางแทนที่ไฟล์ (copy and paste)

คือ การนำไฟล์ที่ผ่านการทำให้ไม่มีวันหมดอายุ (patched/cracked) ไปวางแทนที่ไฟล์ที่ผ่านการติดตั้งแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ c:\Progam Files\....
ตัวอย่าง ถ้าต้องการที่จะ crack โปรแกรม WinTools.net Professional
- ให้ใช้วิธีการ copy "wintoolspro.exe" จาก crack ที่โหลดมา
- นำไปแทนที่ไฟล์เดิม ในโฟล์เดอร์ที่มีโปรแกรมอยู่ คือ
c:\Programs Files\Wintools\WinTools.net Professional
- กด ok

3. การใช้ Keygen หรือ Keymaker สร้าง Key

Keygen คือ ตัวที่ใช้สร้าง key หรือ serial number ที่เป็นไปในลักษณะสุ่ม จากการกดปุ่ม "generate" ที่ตัวสร้างคีย์ ...บางท่านกดไปแล้วอาจจะเห็นว่าตัวเลขไม่ตรงหรือไม่เหมือนเดิม ก็ไม่ต้องตกใจครับ ขอให้ตัวเลขนั้นมัน match กับโปรแกรมก็พอแล้ว .....
เมื่อได้ serial คีย์ แล้วก็นำไปวางขณะที่โปรแกรมร้องขอ ขณะติดตั้ง

ในที่นี่ขอยกตัวอย่าง การลง Photo shop CS 9.0 ซึ่งโปรแกรมอื่น ๆ อาจจะมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากมากนัก แค่สร้าง key แล้วนำ serial ไปใช้งาน

หมายเหตุ: การใส่ serial key สามารถใส่ได้ 2 ลักษณะ คือ

3.1. การใส่ serial key ก่อนการติดตั้งโปรแกรม
...ส่วนนี้หากมีการแนบไฟล์ที่ระบุ serial key มา ก็ให้ copy ไปวางในช่องที่โปรแกรมร้องขอก่อนที่จะทำการติดตั้ง

3.2. การใส่ serial key หลังการติดตั้งโปรแกรม
...หลายต่อหลายคนที่ไปโหลดโปรแกรมมา ขณะติดตั้งโปรแกรมแล้ว ตัวติดตั้งไม่ได้มีการร้องขอ serial key ก็เลยไม่ได้สนใจคิดว่าไม่เป็นปัญหา แต่โปรแกรมบางตัวนั้นมีการกำหนดอายุการใช้งาน เช่น 15 วัน 30 วัน เป็นต้น ...
...และบางครั้งการลง serial number หลังการติดตั้งอาจจะทำไม่ได้เสมอไปนัก ขึ้นอยู่กับคนเขียนโปรแกรม...

แต่วิธีการง่าย ๆ ที่จะสังเกตุว่าโปรแกรมนี้สามารถลง serial ได้หรือป่าว ก็ดูได้จากการที่คนเขียนโปรแกรม หรือคนที่โพสต์ เค้าได้แนบไฟล์ที่เป็น serial (sn.txt) หรือ ตัวสร้างคีย์ (keygen.exe) หากแนบมาด้วยก็แสดงว่าให้ใช้วิธีการใส่ key ลงไป

...วิธีการที่นิยมใช้ เมื่อติดตั้งโปรแกรมเสร็จก็ไปเปิดโปรแกรมใช้งาน

....บางโปรแกรมพอเปิดออกมาแล้วมีข้อความต้อนรับเพื่อร้องขอ serial number ก็ดีไป และหากเราใส่ key ลงไปแล้วโปรแกมสามารถใช้งานได้โดยที่ไม่ฟ้องอีกก็ถือว่าผ่าน...

...แต่หากโปรแกรมไม่ได้มีข้อความต้อนรับให้มีการใส่ serial number หากเราไม่ได้สังเกต และใช้โปรแกรมไปนาน ๆ จู่ ๆ มันก็ฟ้องว่าโปรแกรมเราหมดอายุแล้ว ไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ ให้ใส่ serial number หรือลงทะเบียน ...ก็พบมาเยอะแล้วครับ .........
.........วิธีการง่าย ๆ คือ หลังที่เราลงโปรแกรมเสร็จแล้ว เราก็เข้าไปที่โปรแกรม...แล้วไป "help" อาจจะมีคำว่า "register" หรือ "about" ก็ให้เราคลิ๊กเข้าไป แล้วก็จะมีช่องว่างให้ใส่ serial ลงไปในช่องนี้ หากมีคำเหล่านี้ปรากฎแสดงว่าเราสามารถใส่ serial number ได้ถูกต้องและสามารถใช้โปรแกรมนั้นได้โดยที่ไม่มีวันหมดอายุ เช่น successfull, valid number เป็นต้น

4. การใช้ไฟล์ที่มีนามสกุล .reg หรือ .key

วิธีการนี้ค่อนข้างจะง่าย คือ การเรียกใช้ไฟล์ที่เค้ากำหนดค่า registry ของโปรแกรมนั้นเอาไว้แล้ว เพียงแค่เราเรียกใช้งานโดยการ double click จะเรียกใช้งานจากที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ไม่เหมือนกับการ crack/patch ที่ต้องนำไปวาง ณ ตำแหน่งที่มีการติดตั้ง ...

Yuan class S26T submarines from China.

ส่องเรือดำน้ำ Yuan Class S26T เขี้ยวเล็บใหม่ทัพเรือไทย ค่าตัว 1.3 หมื่นล้าน !            ผ่าสเปค Yuan Class S26T กำลังเสริมใหม่กอง...